ดเวย์น จอห์นสัน (อังกฤษ: Dwayne Johnson) มีชื่อจริงว่า ดเวย์น ดักลาส จอห์นสัน (อังกฤษ: Dwayne Douglas Johnson) เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1972 เป็นนักมวยปล้ำอาชีพและนักแสดงลูกครึ่งแคนาดา-อเมริกัน และมีเชื้อสายซามัว เป็นนักมวยปล้ำของดับเบิลยูดับเบิลยูอี(WWE) ในชื่อที่รู้จักกันอย่างดีว่า เดอะ ร็อก (อังกฤษ: The Rock) ซึ่งบางครั้งก็เรียกกันว่า ดเวย์น "เดอะ ร็อก" จอห์นสัน (อังกฤษ: Dwayne "The Rock" Johnson)
จอห์นสันเป็นนักฟุตบอลประจำวิทยาลัย และในปี 1991 เขาได้เป็นส่วนหนึ่งของแชมป์ทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในไมอามีทีมไมอามีเฮอร์ริเคน จอห์นสันจบคณะบริหารธุรกิจบัณฑิต หลังจากนั้นเขาก็เล่นในทีมแคลกะรี สแตมป์พีเดอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน แคนนาเดียน ฟุตบอล ลีก แต่ก็เล่นได้เพียง 2 เดือนในฤดูกาลนั้น เขาก็ได้ถูกชักจูงให้มาเป็นนักมวยปล้ำเหมือนกับตาของเขา ปีเตอร์ มายเวีย และพ่อของเขา ร็อกกี จอห์นสัน
จอห์นสันได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดีและมีชื่อเสียงโด่งดังมากเมื่อเขาได้มาเป็นนักมวยปล้ำในสมาคม WWE (หรือ WWF ในสมัยนั้น) ตั้งแต่ปี 1996 - 2004 และเขาเป็นคนแรกที่เป็นนักมวยปล้ำรุ่นที่ 3 ในประวัติศาสตร์วงการมวยปล้ำ เขาได้รับการผลักดันอย่างรวดเร็วใน WWE และเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ให้กับ WWE ในตอนแรกเขาใช้ชื่อในการปล้ำว่า "ร็อคกี้ มายเวีย" แล้วก็เปลี่ยนมาเป็น The jabroni beating, lalala pie eating, trail blazing, eye brow raising, the people's champ "เดอะ ร็อก" และเขาเคยได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม เนชั่นออฟโดมิเนชั่น อีกด้วย อีก 2 ปีต่อมาหลังจากที่เขาปล้ำใน WWE เดอะ ร็อก ก็สามารถคว้าแชมป์ WWE มาครองได้สำเร็จ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดในขณะนั้น ด้วยอายุเพียง 26 ปี ทำลายสถิติของ บ็อบ แบ็กลันด์ (อายุ 27 ปี) โดยต่อมาถูกทำลายสถิติโดย บร็อก เลสเนอร์ (อายุ 25 ปี) และเขาได้กลายเป็นนักมวยปล้ำขวัญใจแฟนๆ
นอกจากการปล้ำของเขาแล้ว เดอะ ร็อก มีคำพูดวลีติดปากมากมายที่รวมไปถึงคำด่าเด็ดๆที่เอกลักษณ์ประจำตัวจนกลายเป็นเทรนคำพูด ได้แก่ Finally...The Rock...has come back to (ชื่อเมืองในเวลานั้น), You will go one on one with The Great One!, Who in the blue hell are you?, It doesn't matter what you think, lay the smackdown on your candy ass,Who is this roody-poo?, know your role and shut your mouth, Just Bring It (พร้อมท่ากวักมือ) ปัจจุบันตั้งแต่ 2011 เทรนคำพูดของ เดอะ ร็อก คือ Boots To Asses และ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือคำพูดปิดท้ายประจำตัวตลอดกาลอย่าง If you smell what The Rock is cooking! จนทำให้ เดอะ ร็อก ได้รับสมญานามว่า "The People's Champ" มีเอกลักษณ์คือการเลิกคิ้วข้างขวาข้างเดียว "The People's Eyebrow" และในปี 2001 จอห์นสัน ก็เริ่มไปแสดงภาพยนตร์และกลับมาปล้ำใน WWE เป็นครั้งคราวจนถึง แมตช์สุดท้ายใน Pay Per View ศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 ในปี 2004 หลังจากนั้นบทบาทในวงการมวยปล้ำก็หมดลงไป แต่ก็ยังมีเทปสัมภาษณ์โผล่มาเซอร์ไพร์แฟนๆเป็นครั้งคราวในรายการของ WWE ปัจจุบัน จอห์นสัน ได้หันมาเอาดีด้านการเป็นนักแสดงใน ฮอลลีวูด
ในอาชีพมวยปล้ำของจอห์นสัน เขาเคยเป็นแชมป์โลกถึง 10 สมัย ซึ่งเขาคว้าแชมป์โลกของ WWE มาได้ 8 สมัย (สมัยที่ 7 เป็นแชมป์โลกอันดิสพิวเด็ด) และคว้าแชมป์โลก WCW มาได้ 2 สมัย รวมไปถึงแชมป์อื่นๆ ได้แก่ แชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล 2 สมัย, แชมป์โลกแทคทีม ของ WWE 5 สมัย นอกจากนี้เขาได้เป็นแชมป์ทริปเปิล คราวน์ WWE คนที่ 6 และเป็นผู้ชนะในรอยัลรัมเบิล ปี 2000 อีกด้วย
และเมื่อ จอห์นสัน ได้มาแสดงภาพยนตร์ จอห์นสัน ก็ได้รับบทบาทสำคัญในปี 2001 ในเรื่อง The Mummy Returns โดยรับบทเป็น ราชาแมงป่อง และในบทบาทเดียวกัน ในเรื่อง The Scorpion King ในปี 2002 ซึ่งเขาได้รับรายได้สูงสุดสำหรับนักแสดงที่ได้รับบทตัวเอกของเรื่องเป็นครั้งแรก เป็นเงิน 5.5 ล้านดอลลาร์ ต่อมา จอห์นสัน ก็มีผลงานแสดงอื่นๆในปีต่อๆไป ได้แก่ The Rundown, Doom, Be Cool, Walking Tall, Gridiron Gang, The Game Plan, Get Smart, Race to Witch Mountain, พากย์เสียงแอนิเมชัน Planet 51, Tooth Fairy, Why Did I Get Married Too?, The Other Guys, Faster, Fast Five, Journey 2: The Mysterious Island, G.I. Joe: Retaliation และ Fast & Furious 6.
ในรอว์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2011 เดอะ ร็อก ได้กลับมาที่ WWE อีกครั้ง เพื่อเป็น พิธีกรรับเชิญ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 พร้อมกับเพลงเปิดตัวใหม่ แล้วได้บอกกับแฟนๆ ว่าทำไมเขาถึงกลับมายืนอยู่บนเวทีนี้ เขากลับมา ไม่ได้มาเพราะว่าต้องการเงิน ไม่ได้มาเพื่อโปรโมทหนัง แต่กลับในสังเวียนนี้ มาเพื่อแฟนๆ หลังจากที่ วินซ์ แม็กแมน ได้ประกาศว่าจะมีพิธีกรรับเชิญมาเปิดตัวในสัปดาห์ถัดไป (ตอนของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2011) และในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 เดอะ ร็อก ได้มาก่อกวนการปล้ำของ จอห์น ซีนา ในแมตช์การชิงแชมป์ WWE กับ เดอะมิซ โดย เดอะ ร็อก ได้เล่นงานซีนา ด้วยท่า Rock Bottom ทำให้ซีนา เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เดอะ มิซ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ เดอะ ร็อก ได้เล่นงาน เดอะ มิซ ด้วยท่า People's Elbow เป็นการปิดท้ายรายการอีกด้วย ในรอว์ (4 เมษายน 2011) หลังจบ เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 ซีนา เรียก เดอะ ร็อก ออกมาที่เวที และท้า เดอะ ร็อก ว่าจะเจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 โดย เดอะ ร็อก ก็รับข้อเสนอของซีนา โดยที่ ขวัญใจทั้ง 2 ยุคมาเจอกัน โดยทั้งคู่ก็จับมือรับข้อเสนอไปด้วยดี
ในรอว์ (24 ตุลาคม 2011) ในตอนแรก จอห์น ซีนา จะต้องจับคู่กับ แซค ไรเดอร์ เจอกับ ออซัม ทรูธ (เดอะมิซ และ อาร์-ทรูธ) ระหว่างสัมภาษณ์แซคก็ถูกมิซและทรูธ มาลอบทำร้ายจนบาดเจ็บ ทำให้เป็นแมตช์การปล้ำ 2 รุม 1 ผลปรากฏว่า ซีนา ชนะฟาล์ว หลังแมตช์ มิซและทรูธได้รุมทำร้ายต่อจนผู้จัดการทั่วไปชั่วคราว จอห์น โลรีนายติส ได้ออกมาห้าม และสั่งให้ซีนาเลือกนักมวยปล้ำ 1 คน เพื่อจะจับคู่เจอกับ มิซและทรูธ โดยซีนาได้เลือกเดอะ ร็อกมาเป็นคู่แทกทีมในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2011) เดอะ ร็อกได้กลับมาปล้ำใน WWE อีกครั้ง ในรอบ 7 ปี โดยคู่กับ ซีนา เอาชนะมิซและทรูธไปได้สำเร็จ แต่ว่าหลังจากจบแมตช์ ร็อกได้เล่นงานซีนาด้วยท่า Rock Bottom เป็นการปิดท้ายรายการอีกด้วย
ในรอว์ (20 กุมภาพันธ์ 2012) จอห์น ซีนา ออกมา และพูดถึง เดอะ ร็อก ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ในวันนี้ แต่สัปดาห์หน้าเขาจะมา เพื่อมาคุยกับชั้น เมื่อก่อนชั้นก็เคยชอบเค้านะ แต่ตอนนี้น่ะเอียนแล้ว ก็ยินดีกับมันด้วยละกันกับการที่แสดงหนังอันดับหนึ่งของบ๊อกซ์ออฟฟิซ สัปดาห์หน้ามันก็คงมารอว์ ทำท่ายักคิ้วให้คนดูดีใจ จากนั้นก็กลับไปฮอลลีวู้ดเหมือนเดิม สิ่งที่ชั้นภาคภูมิใจก็คือ ชั้นอยู่กับ WWE มาตลอด 7 ปีที่ผ่านมา และไม่เคยจากไปไหน แล้วที่ เดอะ ร็อก มันกลับมาคราวก่อนน่ะนะ มันก็แค่มาโปรโมต Fast Five กับ ทวิตเตอร์ ของมันเท่านั้น ชั้นคนนี้คือคนที่อยู่กับ WWE ตลอด ชั้นขึ้นปล้ำในเรสเซิลเมเนีย อย่างภาคภูมิใจในฐานะนักมวยปล้ำ พาดหัวข่าวหลังจากคืนนั้นจะต้องเป็น จอห์น ซีนา เอาชนะ เดอะ ร็อก ในบ้านเกิดของเขา ไมอามี ฟลอริดา เอาไว้เจอกันในเรสเซิลเมเนีย ก็แล้วกัน ต่อมาในรอว์ (27 กุมภาพันธ์ 2012) เดอะ ร็อก ออกมาทักทายแฟนๆ ในสนาม และพูดถึงซีนา ว่า ชั้นไม่คิดว่านายเป็นคนเลวหรอกนะ แต่นายแค่เป็นคนกระจอกๆ เท่านั้นเอง ซีนา สัปดาห์ก่อนนายพูดจาพาดพิงถึงชั้น นายบอกว่านายจะต่อสู้ในฐานะตัวแทนนักมวยปล้ำทุกคน แต่ชั้นจะสู้เพื่อแฟนๆ ทุกคน แฟนๆ ที่เบื่อหน่ายแกที่ทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ ทุกค่ำคืน ซีนาออกมาตอบโต้ และบอกว่าเขาไม่ชอบ ดเวย์น จอห์นสัน จะจัดการกับมันในเรสเซิลเมเนีย ก่อนจะเดินจากไป เดอะ ร็อก ก็บอกว่าถึงแกจะปากเสียแล้วรีบเดินหนีไป แต่ว่าความจริงแล้ว เดอะ ร็อก กับ ดเวย์น จอห์นสัน มันก็คนเดียวกัน และมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะว่าในเรสเซิลเมเนีย ชั้นจะเตะก้นแก If You Smell What the Rock is Cooking? ต่อมาในรอว์ (12 มีนาคม 2012) ซีนาออกมาในมาดของ Dr.Thugonomic ใส่หมวกกลับหัว, โซ่ห้อยคอ, เสื้อบาสเก็ตบอล และใช้เพลงเปิดตัวแบบเก่าของตัวเองด้วย ซีนาเริ่มพูดด้วยสำเนียงเด็กแร็ปด่า เดอะ ร็อก ว่าเป็นพวกทรยศเหมือนกับ ลีบอร์น เจมส์ (นักบาสเก็ตบอลที่ย้ายหนีไปจากคลีฟแลนด์) สัปดาห์ก่อน เดอะ ร็อก หรือไอ้ ดเวย์น จอห์นสัน มันโกรธว่ะ มันบอกให้ชั้นหุบปาก แต่หลังจากวันที่ 1 เมษายน มันจะต้องไปศัลยกรรมใบหน้าเหมือนกับที่มันเคยทำศัลยกรรมนมมาแล้ว Team Bring It เหรอ พวกมันไม่น่ากลัวหรอก เพราะ เดอะ ร็อก มันเป็น Tooth Fairy ชั้นจะกระทืบแกในเรสเซิลเมเนีย และเอาถั่วยัดใส่หน้าแก คืนเดียวกัน ร็อกออกมาพร้อมกับกีตาร์โปร่งเพื่อจัด Rock Concert ทักทายแฟนๆ ชาวคลีฟแลนด์ แล้วร็อกก็เริ่มเล่นกีตาร์และร้องเพลงที่แต่งเอง เป็นเพลงด่าซีนา หลังร้องเสร็จแล้ว เดอะ ร็อก ก็ประกาศจะกระทืบซีนา ในเรสเซิลเมเนีย ต่อด้วยเปิดเพลง We Will Rock You ฉบับดัดแปลงด่าซีนา มาร้องกับแฟนๆ ในสนามเป็นการปิดรายการ ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 เดอะ ร็อก ได้เจอกับ ซีนา เป็นแมตช์ที่ ขวัญใจทั้ง 2 ยุคมาเจอกัน สุดท้าย เดอะ ร็อก ก็เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้สำเร็จ ในรอว์ (2 เมษายน 2012) หลังจบ เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 เดอะ ร็อก ได้มาพูดถึงชัยชนะของเขา และยังขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่เชียร์เขา หลังจากนั้นก็บอกว่าเขาอยากจะเจอกับแชมป์ WWE ซักวันหนึ่ง
ในศึก รอว์ ตอนที่ 1,000 (23 กรกฎาคม 2012) เดอะ ร็อก ได้กลับมาอีกครั้ง และออกมาแจก Rock Bottom ใส่ แดเนียล ไบรอัน และ เดอะ ร็อก ยังประกาศด้วยว่าเขาจะท้าชิงแชมป์ WWE ในศึก รอยัลรัมเบิล (2013) คืนเดียวกัน ซีเอ็ม พังก์ มีแมตช์ป้องกันแชมป์ WWE กับ จอห์น ซีนา ผลปรากฏว่า บิ๊กโชว์ ได้มาก่อกวนการปล้ำของซีนา ทำให้กรรมการปรับซีนาชนะฟาวล์ หลังแมตช์ บิ๊กโชว์กระทืบซีนาไม่ยั้ง แต่พังก์ก็ยืนดูเฉยๆ ไม่ยอมช่วย เดอะ ร็อก ออกมาช่วยซีนา และจะใช้ People's Elbow ใส่ บิ๊กโชว์ แต่พังก์ขึ้นมาโคลทส์ไลน์ เล่นงานใส่ เดอะ ร็อก และจับใส่ GTS แล้วก็เดินจากไปท่ามกลางเสียงโห่ของคนดู หลังจบรอว์ ตอนที่ 1,000 แล้วก็มีเหตุการณ์แถมท้าย บิ๊กโชว์ลุกขึ้นมาอัดซีนาอีกรอบ และร็อก ก็จัดการ Rock Bottom ใส่ บิ๊กโชว์ ก่อนที่ซีนาจะซ้ำด้วย Attitude Adjustment หลังจากนั้น ซีนาก็ถอดปลอกแขนอันหนึ่งมาให้ร็อก แต่ร็อก บอกว่า นายคงจะเอาที่คาดหัวมาใส่เป็นปลอกแขนแน่นอน เพราะคงไม่มีใครแขนใหญ่ขนาดนี้ ซีนาและคนดูก็หัวเราะกันสนุกสนาน จากนั้นร็อก ก็ใช้ People's Elbow ใส่ บิ๊กโชว์ แล้วร็อก กับซีนา ได้จับมือกันก่อนที่ซีนาเดินกลับไป
ในรอว์ (7 มกราคม 2013) ซีเอ็ม พังก์ ออกมาโม้ ก่อนที่ เดอะ ร็อก จะตามออกมาขัดจังหวะ ร็อก บอกว่าแกเป็นแชมป์มา 414 วันเหรอ เอาเวลาไปจำตัวเลขอื่นดีกว่าคือ 20 คือในอีก 20 วันเวลาของแกก็จะหมดลงแล้วในรอยัลรัมเบิล แกทำเป็นมาสัญญากับแฟนๆ อย่างงั้นอย่างงี้แต่ไม่เคยทำได้สักอย่าง รวมทั้งไอศครีมบาร์ด้วย มีแต่ไอศครีมในรูตูดแกน่ะสิ แกอ้างว่าเป็น Voice of the Voiceless แต่ความเป็นจริงคือแฟนๆ ทุกคนมีเสียงที่จะตะโกนได้ทุกอย่างที่ต้องการอยู่แล้ว แต่พวกเขาจะไม่ตะโกนคำว่า Respect หรือ Best in the World แต่ต่อไปนี้พวกเขาจะตะโกนคำว่า Cookie Puss ใส่แกแทน เดอะ ร็อก ยังล้อเลียนพังก์ว่าเป็น Straight Edge ของปลอม เพราะหน้าตาเหมือนคนจรจัดขี้ยามากกว่า ร็อก บอกว่าแกเป็นแชมป์ WWE แต่ก็กลายเป็นคนงี่เง่าที่สุดของโลกด้วยเช่นกัน และแกไม่มีทางที่จะหยุด เดอะ ร็อก จากการเป็นแชมป์ WWE ได้ ร็อก บอกว่าคราวก่อนแกมา GTS ใส่ร็อก และ เดอะ ร็อก จะเอาคืนในอีก 20 วันข้างหน้าในรอยัลรัมเบิล เดอะ ร็อก บอกว่าจะเพิ่มรอยสักรูปเท้าให้แก จะได้เป็นเครื่องเตือนใจว่าแกโดนเท้าประทับเข้าไปหนักขนาดไหน ว่าแล้วก็จับใส่ Rock Bottom ปิดท้ายรายการ ในสแมคดาวน์ (11 มกราคม 2013) เดอะ ร็อก ได้กลับมาที่ สแมคดาวน์ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี แต่โรดส์สกอลาส์ (แดเมียน แซนดาว และโคดี โรดส์) ออกมาก่อกวน เดอะ ร็อก ก็จัดการ Rock Bottom ใส่แซนดาว และ People's Elbow ใส่โคดี ในรอว์ (14 มกราคม 2013) เดอะ ร็อก ออกมาจัดคอนเสิร์ตด่า วิคกี เกอร์เรโร พังก์ออกมาหาเรื่อง และจะวิ่งไปทำร้าย เดอะ ร็อก ก็เลยตีกันมั่วไปหมด กรรมการต้องออกมาช่วยห้ามหลายคน
ในรอว์ (21 มกราคม 2013) เดอะ ร็อก ได้ออกมาไล่ พอล เฮย์แมน ให้ลงไปจากเวทีและท้าทายพังก์ ให้มาพบเขาแบบตัวต่อตัวอย่างลูกผู้ชาย แต่ว่าพังก์ไม่ไปตามคำท้า เขากลับนั่งดู เดอะ ร็อก อยู่ห่างๆ บนที่นั่งชั้นเฟิร์สทคาสส์ ไม่ทันที่ เดอะ ร็อก กำลังจะกลับ ไฟในสนานก็ดับสนิท เมื่อไฟกลับมาแล้ว แต่ก็โดน เดอะชีลด์ (ดีน แอมโบรส, เซท โรลลินส์ และ โรแมน เรนส์) รุมกระทืบและก็โดน Triple Powerbomb ทำให้ เดอะ ร็อก ถึงกับปากแตก แล้วพังก์ก็บอกกับ เดอะ ร็อก ว่า การเป็นแชมป์มหาชนนั้นไม่เพียงพอที่จะเอาชนะนักมวยปล้ำที่ดีที่สุดในโลกได้ จากนั้น วินซ์ แม็กแมน ได้มาบอกกับพังก์ ว่าถ้า เดอะชีลด์ มาก่อกวน เดอะ ร็อก ในแมตช์ชิงแชมป์ WWE ในรอยัลรัมเบิล เขาจะปลดแชมป์ WWE จากพังก์ทันที ในรอยัลรัมเบิล เดอะ ร็อก ได้ชิงแชมป์ WWE กับ ซีเอ็ม พังก์ ช่วงท้ายแมตช์ เดอะ ร็อก กำลังได้เปรียบอยู่ดีๆ ไฟในสนามก็ดับ และกลุ่ม เดอะชีลด์ ก็ออกมาโจมตีร็อก แล้วจับพาวเวอร์บอมบ์ใส่โต๊ะผู้บรรยาย ไฟกลับมาสว่างอีกครั้ง พังก์ลาก เดอะ ร็อก ขึ้นเวทีมากดนับ 3 ชนะไป พังก์กำลังฉลองอยู่ วินซ์ แม็กแมน ก็ออกมา และบอกว่าเคยบอกเอาไว้แล้วว่าถ้า เดอะชีลด์ มาก่อกวนจะสั่งปลดแชมป์ WWE จากพังก์ทันที วินซ์กำลังจะสั่งปลดแชมป์ แต่ร็อก ห้ามเอาไว้ และบอกว่าขอให้เริ่มปล้ำกันใหม่อีกครั้งดีกว่า คราวนี้ ร็อกเป็นฝ่ายใช้ท่า People's Elbow และกดนับ 3 เดอะ ร็อก ก็เป็นฝ่ายชนะและคว้าแชมป์ WWE สมัยที่ 8 ไปครอง ทำให้ เดอะ ร็อก คว้าแชมป์โลกครั้งแรกในรอบ 10 ปี ได้สำเร็จ ในรอว์ (28 มกราคม 2013) เดอะ ร็อก ออกมาประกาศว่าต่อไปนี้จะไม่มีไอ้คนจรจัด รอยสักเต็มตัว ซีเอ็ม พังก์ ออกมาโม้เกี่ยวกับการเป็นแชมป์อีกต่อไปแล้ว แล้วก็ไม่ต้องมาทนรำคาญกับผู้จัดการหัวล้านของมันด้วย พังก์ออกมาประกาศใช้สิทธิ์รีแมตช์ ในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2013) ในรอว์ (11 กุมภาพันธ์ 2013) เดอะ ร็อก ออกมาพูดกับแฟนๆ แต่โดนพังก์ขัดจังหวะ พังก์ขึ้นเวทีไปแลกหมัดกับร็อก และเป็น เดอะ ร็อก ที่จับ Spinebuster ได้ ร็อกจะปิดฉากด้วย People's Elbow แต่โดน พอล เฮย์แมน ดึงขาจนหน้าทิ่มพื้นซะก่อน พังก์จัดการ GTS ใส่ร็อก และพังก์ก็เอาเข็มขัดแชมป์ของร็อก เดินกลับบ้านไปเลย บอกว่าเขาสมควรเป็นแชมป์มากกว่า ในสแมคดาวน์ (15 กุมภาพันธ์ 2013) เดอะ ร็อก ออกมาพูดถึงการที่พังก์ ขโมยเข็มขัดแชมป์ของเขาไป และใน อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ เขาจะกระทืบพังก์ จนไม่กล้าแตะต้องเข็มขัดนั้นอีกตลอดกาล พังก์โผล่มาทางจอยักษ์พร้อมกับเข็มขัดแชมป์เพื่อล้อเลียน เดอะ ร็อก และบอกให้ เดอะ ร็อก โกรธมากๆ เลย จะได้ถูกจับแพ้ฟาวล์ ในแมตช์ชิงแชมป์ ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ เดอะ ร็อก ต้องป้องกันแชมป์ WWE กับ ซีเอ็ม พังก์ โดยถ้า เดอะ ร็อก ถูกจับแพ้ฟาวล์ ร็อกจะเสียแชมป์ทันที สุดท้าย เดอะ ร็อก ก็สามารถเอาชนะพังก์ไปได้เป็นครั้งที่ 2 ทำให้ เดอะ ร็อก ได้แชมป์ WWE คืนมาจากพังก์ และป้องกันแชมป์เอาไว้ได้สำเร็จ
ในรอว์ (18 กุมภาพันธ์ 2013) เดอะ ร็อก ออกมาพูดถึงเข็มขัดแชมป์ WWE เส้นปัจจุบัน บอกว่าแชมป์ WWE มันไม่ควรจะดูเหมือนของเล่นแบบนี้ และที่สำคัญมันไม่ควรจะหมุนได้ด้วย เดอะ ร็อก สั่งให้เด็กยกของเอาเข็มขัดเส้นนี้ไปเก็บเข้ากรุซะเถอะ จากนั้นก็เปิดตัวเข็มขัดเส้นใหม่ จอห์น ซีนา ออกมายืนจ้องหน้าร็อก ท่ามกลางเสียงโห่ของคนดู จากนั้น ซีเอ็ม พังก์ เอาเข็มขัดเส้นเก่ามาฟาดใส่กลางหลังซีนาจนล้มกลิ้ง จากนั้นก็โยนเข็มขัดเก่าทิ้งไว้ข้างๆ ตัวซีนา ก่อนจะยืนชี้หน้าร็อก แล้วเดินกลับไป ในรอว์ (25 กุมภาพันธ์ 2013) ได้มีแมตช์ระหว่าง ซีนา กับ พังก์ ผู้ชนะจะได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ เดอะ ร็อก ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 สุดท้ายซีนาก็เป็นฝ่ายชนะ ทำให้ซีนาได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับ เดอะ ร็อก ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 ในรอว์ (25 มีนาคม 2013) มีการจัดดีเบตระหว่าง ร็อก กับ ซีนา แต่ซีนาเถียงสู้ร็อก ไม่ได้เลยทำเป็นฮัดฮัดถอดเสื้อแล้วเดินเข้าไปหาร็อก ซีนาทำท่า You Can't See Me ใส่ร็อก เลยโดนร็อกผลักซะ ซีนาจับร็อกแบกจะใช้ Attitude Adjustment แต่ร็อกดิ้นหลุดแล้วจับ Rock Bottom ในรอว์ (1 เมษายน 2013) เดอะ ร็อก ออกมาประกาศว่า ซีนาคิดจะแก้มือจากปีที่แล้ว คิดจะเอาเข็มขัดเส้นนี้ แต่จะบอกให้ว่าเวลานั้นของแกน่ะมันไม่มีวันมาถึงหรอก If you smell..... what the rock is cooking!? ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 เดอะ ร็อก ได้แพ้ให้กับซีนา และเสียแชมป์ WWE หลังแมตช์ ร็อกก็จับมือแสดงความยินดีกับซีนา จากนั้น เดอะ ร็อก ได้มีอาการไส้เลื่อนจากการปล้ำกับซีนา จนต้องเข้ารับการผ่าตัด และการผ่าตัดของร็อก ก็เป็นไปด้วยดี โดยร็อก เผยว่าแพทย์ได้ผ่าตัดซ่อมแซมให้เขาเรียบร้อยแล้ว ล่าสุด เดอะ ร็อก ได้โพสต์ ทวิตเตอร์ ว่าแมตช์กับ จอห์น ซีนา ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 อาจจะเป็นแมตช์สุดท้ายของเขาแล้ว
ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 30 เดอะ ร็อก ได้กลับมาอีกครั้ง และบอกว่าในที่สุดเขาก็ได้กลับมาเยือนนิวออร์ลีนส์อีกครั้ง และก็กลับมาที่ซูเปอร์โดมด้วย เดอะ ร็อก บอกว่า สโตน โคลด์ กับ ฮัลค์ โฮแกน เป็นสองตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน WWE และเขาก็เคยเจอกับทั้งคู่มาแล้วใน เรสเซิลเมเนีย ตอนนี้เรามารวมกันเกือบครบแล้ว ขาดแต่พระเอกยุคปัจจุบันซึ่งมันคงไม่กล้าออกมาหรอกนอกจาก โฮแกน จะเชิญมันออกมา จากนั้นทั้ง 3 พระเอกก็พูดประโยคฮิตของตัวเอง โดย เดอะ ร็อก บอกว่า If you smell what the rock is cooking!?, สโตน โคลด์ บอก and that's the bottom line cause Stone Cold said so! และ โฮแกน ปิดท้ายว่า Watcha gonna do brothers when Hulk Hogan, Stone Cold Steve Austin, The Rock, and Superdome run wild on you!? สโตน โคลด์ เอาเบียร์มาเลี้ยงทุกคนและก็แยกย้ายกันกลับ
ในรอว์ (6 ตุลาคม 2014) รูเซฟ กับ ลานา ออกมาที่เวทีแล้วก็ด่าอเมริกา ด่า บิ๊กโชว์ ก่อนที่ รูเซฟ จะท้าให้ บิ๊กโชว์ ออกมาเจอกันเดี๋ยวนี้เลย บิ๊กโชว์ ไม่ออกมา แต่เป็น เดอะ ร็อก ที่ออกมาแทน ร็อก มาด่า รูเซฟ ฉอดๆๆ ว่าที่คนเขาโห่พวกแกน่ะไม่ใช่เพราะพวกแกชอบรัสเซีย แต่เขาโห่เพราะพวกแกมันเป็นคนงี่เง่าระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ร็อก ต่อย รูเซฟ รัวจนตกเวทีไป และ รูเซฟ กับ ลานา ก็ต้องถอยกลับหลังฉากไปก่อน ในสแมคดาวน์ (10 ตุลาคม 2014) เดอะ ร็อก มาทักทาย ทริปเปิล เอช และ สเตฟานี แม็กแมน ตอนแรก ๆ ก็คุยกันดี ๆ แต่แป๊บเดียวก็ทะเลาะกันเพราะ ร็อก บอกว่าถ้าเจอกันอีกครั้งใน เรสเซิลเมเนีย ล่ะก็แกโดนเตะก้นแน่ ทริปเปิล เอช ก็บอกว่าเคยเจอกันมาแล้วนี่ใน เรสเซิลเมเนีย และแกก็แพ้ด้วย ทริปเปิล เอช บอกให้เลือกเลยว่าอยากเจอกันเมื่อไหร่ เรสเซิลเมเนีย ไหน สนามไหน แต่ สเตฟานี ก็มาห้ามไว้แล้วก็ชวนทั้งสองคนไปหาอะไรกินกันดีกว่า
ในรอยัลรัมเบิล (2015) ร็อกได้วิ่งออกมาช่วยโรแมน เรนส์ไล่อัดบิ๊กโชว์กับเคน เรนส์ลุกมา Superman Punch ใส่โชว์แต่คนดูโห่ ร็อกจัดการ Rock Bottom ใส่โชว์ หลังแมตช์ร็อกขึ้นไปชูมือให้เรนส์ แต่คนดูโห่กระจาย จากนั้นทริปเปิลเอชกับสเตฟานีก็ออกมาทำหน้าไม่พอใจที่เรนส์ชนะร็อกชูมือเรนส์อีกครั้ง คนดูก็โห่เหมือนเดิม ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31 ทริปเปิลเอชกับสเตฟานี แม็กแมน ออกมาที่เวทีเพื่อแหย่คนดูเล่น แต่ร็อกออกมาขัดจังหวะ ทำให้สเตฟานีจัดการตบหน้าร็อก และก็ท้าให้ร็อกต่อยผู้หญิงเลย ถ้าไม่กล้าก็เดินกลับไปซะ ร็อกไปพา Ronda Rousey ที่นั่งดูอยู่ข้างเวทีขึ้นไปหาสเตฟานี และก็จัดการต่อยทริปเปิลเอชร่วงไป แถม Rousey ยังจับทริปเปิลเอชทุ่มอีก สเตฟานีเข้าไปเอาเรื่อง Rousey เลยโดนจับบิดแขนร้องลั่น ก่อนจะหนีลงเวทีไป
ในรอว์ (25 มกราคม 2016) เดอะ ร็อก ได้ออกมาที่เวทีเพื่อทักทายแฟนๆ ชาวไมอามี่ แต่พวกเดอะนิวเดย์ (ซาเวียร์ วูดส์, บิ๊กอี และ โคฟี คิงส์ตัน) ออกมาหาเรื่อง เดอะ ร็อก ดิ อูโซส์ เลยออกมาช่วย ร็อก และก็จับ บิ๊ก อี ไปให้ ร็อก จัดการด้วย Rock Bottom โคฟี ก็โดน อูโซส์ จับ Samoan Drop ไป และสุดท้าย ซาเวียร์ พยายามขอโทษและจะวิ่งหนี แต่โดน อูโซส์ ถีบหน้าเข้าไป แล้ว ร็อก ก็ซ้ำด้วย People's Elbow ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 32 เดอะ ร็อก ออกมาทักทายแฟนๆ ในสนามและพูดเรื่องสถิติผู้ชม เรสเซิลเมเนีย ปีนี้ที่ทำสถิติใหม่มีคนดูกว่า 101,000 คน เดอะไวแอ็ตต์แฟมิลีออกมาก่อกวน และเบรย์ ไวแอ็ตต์ก็พูดจาไม่รู้เรื่อง ทำให้โดน เดอะ ร็อก ด่าเช็ดเรียงตัว แล้วก็ท้าให้ใครก็ได้คนนึงมาเจอกันตัวต่อตัวเดี๋ยวนี้เลย เบรย์ให้อีริก โรแวนมาเจอกับร็อก แมตช์เริ่มปุ๊บ ร็อกก็จัดการ Rock Bottom ทันที ทำให้ชนะไปด้วยสถิติใหม่ของ เรสเซิลเมเนีย คือ 6 วินาที หลังแมตช์พวกไวแอ็ตต์ จะรุม ร็อก แต่ จอห์น ซีนา ออกมาช่วย และทั้งสองคนก็ช่วยกันปราบ เดอะไวแอ็ตต์